Windows 8 : เอา Classic Start Menu กลับมาใช้


สำหรับผู้ที่ทดลองใช้ Windows 8 จะรู้กันว่าไมโครซอฟต์ออกแบบให้มี Interface แบบใหม่ที่เรียกว่า Metro UI ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการทำงานกับอุปกรณ์จำพวกแท็บเล็ต ก็เป็น Interface ที่สะดวกเพียงแค่ใช้นิ้วจิ้มรูดไปมา แต่สำหรับผู้ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์แบบธรรมดาทั่วไปล่ะ ก็จะไม่สะดวกและไม่ชอบ ซึ่งความจริงไมโครซอฟต์ไม่ได้ทิ้งการทำงานแบบเก่า ใน Windows 8 ยังมีอยู่ครบถ้วน  แต่ได้ตั้งค่าดีฟอลต์แบบ Metro UI เป็นหลัก
 คราวนี้ถ้าผู้ใช้ Windows 8 ต้องการให้การใช้งานเป็นแบบเก่าที่มีปุ่ม Start Menu แบบเดิมหรือที่เรียกว่า Classic Start Menu ถามว่าสามารถทำได้หรือไม่ ผมก็ขอบอกได้เลยว่าทำได้ และทำได้ไม่ยากอะไร เพียงแก้ Registry แค่จุดเดียวเท่านั้นเอง….มาดูกันว่าทำได้อย่างไร
1.เมื่ออยู่ที่หน้า Desktop ให้กดคีย์ Windows Logo + R แล้วพิมพ์ regedit  ลงในช่องว่าง Open ของหน้าต่าง Run แล้ว Enter
2.เมื่อหน้าต่าง Registry Editor เปิดออกมา ให้คลิกไปตามคีย์ย่อยตามนี้
HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Windows\CurrentVersion\Explorer
 3.แล้วมาดูที่คีย์ RPEnabled จะเห็นว่ามีค่าเป็น 1 ให้ดับเบิลคลิกที่คีย์นี้ จะมีหน้าต่าง Edit DWARD (32-bit) Value เปิดออกมา ให้เปลี่ยนค่า 1 เป็น0 แล้วคลิก OK
4.ปิด Registry Editor กลับมาที่หน้า Desktop ให้ลองเมาส์ไปคลิกที่ตำแหน่ง Start Menu เราจะได้ Start Menu แบบที่คุ้นเคยกลับมา
 แหล่งข้อมูล – www.neowin.net
 ทำความเข้าใจกับ Windows 8 : ผมต้องมีหมายเหตุ ให้ผู้อ่านบทความ Windows 8 Developer Preview ทำความเข้าใจกับ Windows 8 เวอร์ชันที่ออกมานี้ก่อน ว่ายังเป็นรุ่นที่พัฒนายังไม่เสร็จเรียบร้อยนะครับ ยังแค่ทดลองให้นักพัฒนาโปรแกรมทดสอบอยู่ อย่าเข้าใจว่าเป็นตัวจริง ฉะนั้นการใช้งานจะมีบางอย่างติดขัดหรือใช้ไม่ได้บ้าง ซี่งเป็นเรื่องปกติของการพัฒนาโปรแกรม โปรดเข้าใจด้วย ถ้าใช้ แล้วมันมีอาการเพี้ยนๆ ก็อย่าเพิ่งติครับ ใจเย็นๆ ไม่เกินปี 2012 รับรองได้ใช้ตัวจริงที่สมบูรณ์แบบแน่ๆ

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ใช้ Windows 7 เเล้วช้า…ถึงคราวสะสางระบบกันบ้าง

รูปภาพ
สำหรับการใช้วินโดวส์ไม่ว่าจะเป็นเวอร์ชันใด ผู้ใช้จะพบกับปัญหาหนึ่งที่อยู่คู่กับวินโดวส์มาตลอด นั้นคือเมื่อเริ่มแรกๆ วินโดวส์ของเราก็วิ่งฉิ่วดีอยู่หรอก แต่เมื่อนานๆ ไปก็อืดทำงานช้าจะเปิดโปรแกรมอะไรแต่ละทีก็ใช้เวลานานขึ้นที่เป็นเช่นนี้ ก็เพราะวินโดวส์ได้สร้างไฟล์ที่ไม่ต้องการทิ้งไว้เยอะขึ้น ที่เรียกว่าไฟล์ขยะ เจ้าไฟล์ขยะที่ว่านี้ ก็เกิดจากเราติดตั้งโปรแกรมหรือถอนโปรแกรมเพราะเมื่อติดตั้งโปรแกรมใหม่เข้าไปในวินโดวส์ ในระหว่างการติดตั้งตัวโปรแกรมที่จะเขียนไฟล์ชั่วคราวที่จำเป็นในการติดตั้งไว้ในเครื่อง เมื่อติดตั้งเสร็จก็จะลบออกให้ แต่ในความจริงแล้วโปรแกรมพวกนี้มักจะลบไฟล์ชั่วคราวไม่หมด มันก็จะเป็นไฟล์ขยะไว้ในเครื่องเรา เมื่อถอนโปรแกรมก็เช่นกัน วินโดวส์ก็ไม่สามารถถอนไฟล์ทุกไฟล์ได้หมดจดก็จะเหลือเป็นไฟล์ขยะอีก ไหนจะไฟล์ที่เราทำงานลบบ้างก็อปปี้บ้าง ไฟล์ชั่วคราวของโปรแกรมต่างๆ ที่มันเขียนไว้ในขณะทำงานอีก และสำหรับพวกที่นิยมท่องเว็บก็จะมีไฟล์ขยะที่เรียกว่า Internet Cache Files   วันนี้เรามาสะสางกับปัญหานี้ด้วยกันดีกว่าเพื่อให้วินโดวส์ของเราลื่นไหลทำงานได้เร็วเหมือนตอนติดตั้งวินโดวส์ใหม่… ...
อ่านเพิ่มเติม

เอาคำสั่งลบไฟล์แบบถาวรมาไว้ที่เมนูคลิกขวา

รูปภาพ
ปรกติการลบไฟล์หรือโฟลเดอร์ใน Windows จะไม่ได้เป็นการลบแบบถาวร เราสามารถกู้ไฟล์ที่โดนลบกลับมาได้จากคำสั่งที่ Recycle Bin หรือจะสั่งลบแบบถาวรก็ใช้คำสั่ง Empty  Recycle Bin แต่ในความเป็นจริงคำสั่งนี้ก็ไม่ได้ลบไฟล์หรือโฟลเดอร์แบบถาวร ยังสามารถกู้ขึ้นมาได้โดยโปรแกรมกู้ข้อมูลต่างๆ สำหรับบทความนี้ ผมจะมาเอาคำสั่งลบไฟล์หรือโฟลเดอร์แบบถาวรจริง ๆ คือ ลบแบบปลอดภัยไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่ลบจะถูกเขียนทับหลายครั้ง  (อยู่ที่ว่าตั้งค่าเขียนทับกี่ครั้ง)  ช่วยให้แน่ใจว่าไฟล์หรือโฟลเดอร์สำคัญที่เป็นความลับ ไม่สามารถกู้ขึ้นมาได้ …. มาลงมือทำกัน 1.ก่อนอื่นต้องไปดาวน์โหลดโปรแกรมที่ชื่อ  Sdelete  ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ลบไฟล์แบบรักษาความปลอดภัย โดยโปรแกรม จะใช้มาตราฐานการลบเข้าระหัสแบบ  DOD 5220.22-M  ซึ่งเป็นมาตราฐานของ  National Industrial Security Program  โดยดาวน์โหลดได้ที่นี่   http://technet.microsoft.com/en-us/sysinternals/bb897443   (เป็นฟรีแวร์) 2.เมื่อได้ไฟล์แล้วให้ขยายไฟล์ออกมา แล้วก็อปปี้ไฟล์ที่ชื่อ  sdelete.exe ...
อ่านเพิ่มเติม