บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก พฤศจิกายน, 2011

Windows 8 : เปิดฟีเจอร์ 64 บิต ใน Internet Explorer 10

รูปภาพ
ใน Windows 8 Developer Preview ทั้งแบบ 32 และ 64 บิต Internet Explorer เป็นเบราว์เซอร์คู่บุญของ Windows อยู่แล้ว แต่ใน Windows 8 แบบ 64 บิต จะมี Internet Explorer 10 (IE10) ที่เป็นทั้ง 32 และ 64 บิต โดยค่าดีฟอลต์ทางไมโครซอฟท์ได้ตั้งค่าไว้ที่ 32 บิต แต่ถ้าเราต้องการจะให้ Internet Explorer ทำงานในแบบ 64 บิต ให้เหมือนกับ OS หลักก็สามารถทำได้  1.เปิด Internet Explorer จาก Desktop Style (ไม่ใช่ Metro Style) แล้วคลิกที่  รูปเฟื่อง  เลือกคำสั่ง  Internet options 2.ที่หน้าต่าง Internet Options ให้คลิกเลือกที่แท็บ  Security  แล้วคลิกทำเครื่องหมายถูกที่  Enable 64-bit Mode  เพื่อทำงานเปิดฟีเจอร์ 64 บิต ในรายการที่อยู่ใน  Select a zone to view or change security settings.  ซึ่งได้แก่  Internet, Local intranet, Trusted sites และ Restricted sites 3.เมื่อทำเครื่องหมายถูกครบแล้ว ก็คลิก  Apply > OK  รีสตาร์ท Internet Explorer 4.เมื่อเปิด Internet Explorer ขึ้นมาใหม่ให้คลิกที่  รูปเฟื่อง  เลือกคำสั่ง  About Internet Explorer  เราจะเห็นหน้า About ของ Internet Explorer 10 เปล

Windows 8 : สร้างลิงค์ All Programs บน Desktop Taskbar

รูปภาพ
การเอา Start Menu แบบเก่ามาใช้กับ Windows 8 นั้นเป็นสิ่งที่ทำได้โดยแก้ไข Registry ซึ่งผมก็ได้เขียนบทความไปแล้วซึ่งสามารถอ่านได้ที่นี่  Windows 8 : เอา Classic Start Menu กลับมาใช้   แต่นั้นเป็นวิธีที่ปิดฟีเจอร์ Metro Style คือกลับมาใช้ Interface หรือการติดต่อกับระบบแบบ Windows 7 แบบเก่า วันนี้จะมาบอกวิธีง่ายๆ ที่จะเอาเมนู Start หรือ All Programs มาใช้ในแบบที่ไม่ต้องไม่แก้ไข Registry หรือปิดระบบเดิมของ Windows 8 วิธีการทำก็มีดังนี้… 1.เมื่ออยู่ที่หน้า Desktop ให้เปิด Windows Explorer ขึ้นมา ไปที่แท็บ View    แล้วคลิกเครื่องหมายถูกที่คำสั่ง  Hidden item  เพื่อโชว์โฟลเดอร์ที่ซ่อนอยู่ 2.จากนั้นให้คลิกไปยังโฟลเดอร์ที่ซ่อนตามนี้ C:\ProgramData\Microsoft\Windows\Start Menu\Programs (โฟลเดอร์  Programs เป็นที่เก็บลิงค์โปรแกรมของ Windows และโปรแกรมที่เราติดตั้งลงใน  Windows) 3.ให้คลิกขวาที่โฟลเดอร์ Programs เลือกคำสั่ง  Create shortcut  เพื่อสร้างช็อตคัด ระบบจะมีคำเตือนว่าไม่สามารถสร้างช็อตคัดที่โฟลเดอร์นี้ได้ และจะไปสร้างที่ Desktop แทน ให้เราตอบ  Yes  4.ต่อมาให้เปลี

Windows 8 : ทำการ Minimize (ซ่อน) Ribbon ของ Windows Explorer

รูปภาพ
สำหรับผู้ที่ทดลองใช้ Windows 8 จะทราบแล้วว่า Windows Explorer ของ Windows 8 นี้จะมีลักษณะการทำงานแบบริบบอนที่เหมื่อนกับไมโครซอฟท์ออฟิศ 2010 ถ้าจะกล่าวกันตรงๆ มันก็มีประโยชน์ไม่น้อยเพราะมีคำสั่งที่ใช้ง่ายมองดูคำสั่งจะเป็นในรูปแบบไอคอนให้คลิกทำงาน แต่ในการใช้งานจริงบางท่านอาจจะมีความรู้สึกว่าเจ้าริบบอนนั้นมันใหญ่เกินไปทำให้พื้นที่ของหน้า Windows Explorer เหลือน้อยลง คราวนี้ก็เกิดคำถามขึ้นมาว่าจะทำอย่างไรให้เมนูริบบอนนั้นหดไปหรือซ่อนไว้ก่อนเมื่อไม่ต้องการ พอต้องการใช้ก็ให้ออกมา หรือบางท่านต้องการจะซ่อนไว้ทุกครั้งเมื่อเปิด Windows Explorer ออกมา  คำถามนี้มีคำตอบครับ ตามผมมาจะแนะวิธีให้ซึ่งมีหลายวิธีทั้งที่ปรับแต่ง Registry หรือที่ Group Policy Editor แต่ในที่นี่เพื่อไม่ให้เป็นการยากเกินไปจะแนะการใช้ที่ตัวคำสั่งของ Windows Explorer เองจะง่ายที่สุด 1.เมื่ออยู่ที่ Windows Explorer ให้คลิกขวาที่ Toolbar จะมีคำสั่งออกมาให้เลือก ให้เราคลิกเลือกที่  Minimize the Ribbon  2.อีกวิธีหนึ่งก็ให้คลิกที่  ลูกศร  v  ที่อยู่ด้านขวาของ Toolbar จะเป็นการสั่งให้ซ่อนหรือหดเมนูริบบอนหรือจะแสดงเมนูร

Windows 8 : ปิดเปิด Windows Smart Screen

รูปภาพ
Windows SmartScreen ไม่ใช่ฟีเจอร์ใหม่สำหรับ Windows 8 ใน Windows 7 ก็มีฟีเจอร์อยู่แล้ว แต่หน้าตาจะไม่เหมือนกัน SmartScreen คือคุณลักษณะใน Internet Explorer ที่จะช่วยตรวจจับเว็บไซต์ฟิชชิ่ง นอกจากนี้ SmartScreen ยังช่วยป้องกันไม่ให้คุณติดตั้งซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตรายหรือมัลแวร์ ซึ่งเป็นโปรแกรมที่มีลักษณะที่ผิดกฎหมาย มีไวรัส ฉ้อฉล หรือเป็นอันตราย ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ดี แต่บางครั้งการจับผิดแล้วเตือนมากหรือเตือนตลอด ผู้ใช้ก็อาจจะเบื่อต้องการจะปิดหรือควบคุมการเตื่อน ทาง Windows 8 ก็เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ได้ปรับแต่งค่าได้  วิธีปรับแต่ง Windows SmartScreen ทำได้ดังนี้ 1.เมื่ออยู่ที่หน้า Desktop ให้คลิกที่ไอคอน  รูปธง  ที่อยู่ทางขวาของ Taskbar (ใกล้นาฬิกา) จะมีหน้าต่างเล็กๆ แสดงออกมา ให้คลิกเลือก  Open Action Center 2.ที่หน้าต่าง  Action Center  ให้คลิกที่คำสั่ง  Change SmartScreen settings  ที่อยู่ทางด้านซ้ายของหน้าต่าง 3.ที่หน้าต่าง  Windows SmartScreen  จะคำสั่งให้เลือก 3 คำสั่ง โดยคำสั่งที่เป็นค่าดีฟอลต์ของ Windows คือ  Require approval from an administrator before running unrec

Windows 8 : แจ้งเตือนอีเมลใหม่บนหน้าจอล็อกเครื่อง

รูปภาพ
ถ้าพูดถึงไมโครซอฟท์ในช่วงเวลานี้คงไม่มีอะไรที่เด่นไปกว่า Windows 8 ทางไมโครซอฟท์ได้ออกแบบ Windows 8 ให้ใช้กับ ARM หรืออุปกรณ์ที่มีขนาดเล็ก เช่น สมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต เพื่อจะทวงคืนความเป็นผู้นำจาก iOS และ Android ซึ่งฟีเจอร์ใช้ในอุปกรณ์เหล่านี้ ก็สามารถใช้ได้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วย นั้นคือ ไมโครซอฟท์ใส่ความสามารถในการแสดงข้อมูลบน Lock Screen หรือหน้าจอที่แสดงว่าเครื่องสมาร์ทโฟนถูกล็อกมาใช้ โดยแทนที่จะแสดงเป็นภาพนิ่งหรือนาฬิกาทั่วไป แต่ผู้ใช้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ Windows 8 จะสามารถรับรู้ข้อมูลใหม่ทั้งปฏิทินงานที่ใกล้มาถึงและอีเมลใหม่ได้ แม้จะไปได้ใช้เครื่อง แต่สั่งล็อกหน้าจอหรือเครื่องล็อกเองอัตโนมัติ การดึงข้อมูลแจ้งเตือนแบบอัตโนมัตินี้เชื่อว่าจะมีประโยชน์ไม่น้อยต่อผู้ใช้คอมพิวเตอร์ เช่น เดียวกับที่มีประโยชน์กับผู้ใช้สมาร์ทโฟนพกพามาแล้ว แม้จะเป็นฟีเจอร์ที่ไม่โดดเด่นมาก แต่ฟีเจอร์นี้ทำให้ผู้ใช้ Windows 8 สามารถทราบได้ทันทีว่าได้พลาดอะไรไปเมื่อไม่อยู่หน้าเครื่อง ขณะเดียวกันก็ลดความจำเป็นในการปลดล็อกเครื่องลง โดยระบบสามารถอัปเดทข้อมูลใหม่ให้กับผู้ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่พักเครื่อ

Windows 8 : ปรับเปลี่ยนจำนวนแถวของ Apps ในหน้า Metro Start

รูปภาพ
ปกติหน้า Start ของ Metro Style จะเป็นที่แสดง Apps ต่างๆ ในเครื่อง ซึ่งค่าดีฟอลต์จำนวนแถวของ Apps  (ตามแนวนอน)  ที่แสดงจะเป็นค่าอัตโนมัติ โดย Windows 8 จะคำนวณจากค่า  Resolution  ของจอภาพ ที่ใช้ปกติจะอยู่ระหว่าง 3 – 5 แถว ตัวอย่าง  ถ้าจอภาพมีค่า Resolution เท่ากับ 1920 x 1080 ก็จะมีแถวของ Apps อยู่ 5 แถวเป็นค่าดีฟอลต์ สำหรับค่าดีฟอลต์จำนวนแถวของ Apps ที่ Windows 8 กำหนดไว้ตาม Resolution ดูได้จากตารางด้านล่าง Screen Resolution Default Max Min 800 x 600 3 3 1 1024 x 600 3 3 1 1024 x 768 4 4 1 1360 x 768 4 4 1 1152 x 864 5 5 1 1280 x 720 4 4 1 1280 x 960 5 6 1 1280 x 1024 5 6 1 1440 x 900 5 5 1 1600 x 900 5 5 1 1900 x 1080 5 6 1 ตัวอย่างจำนวนแถวของ  Apps ตาม Resolution  ดูที่ตารางจะสังเกตได้ว่า Windows สามารถแสดงค่าได้มากหรือน้อยกว่าค่าดีฟอลต์ได้ คราวนี้ถ้าเราต้องการที่จะเพิ่มหรือลดจำนวนแถวของ Apps ตามแต่ที่เราต้องการ  (แต่ต้องอยู่ในค่าที่  Windows ย่อมรับ)  ก็สา

Windows 8 : ล็อกออนแบบไม่ต้องใส่พาสเวิร์ด

รูปภาพ
สำหรับคุณๆ ที่ทดลองใช้ Windows 8 มาแล้วจะรู้สึกได้ว่าตั้งแต่บูตเครื่องมาถึงหน้าล็อกออน จะเร็วกว่า Windows 7 เพราะทางไมโครซอฟต์ได้ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ได้ใช้ (เข้าระบบ) ได้รวดเร็ว แต่ถ้าจะให้เร็วไปกว่านั้นเอาแบบล็อกออนอัตโนมัติ ผ่านหน้าล็อกออนเข้าหน้าเดสก์ทอป พร้อมใช้งานโดยไม่ต้องมากรอกพาสเวิร์ดให้เสียเวลา (เหมาะสำหรับเครื่องที่มีผู้ใช้คนเดียว) ก็เป็นการดี วิธีการก็ไม่ได้ยุ่งยาก ซึ่งวิธีการทำก็จะเหมือนกับทำใน Windows 7 แต่ที่เอามาบอกก็สำหรับคนที่ไม่ใช้วิธีนี้จะได้เรียนรู้การปรับแต่ง Windows 7 ได้ตามใจชอบ 1.ให้กดคีย์  Windows Logo + R  เพื่อเปิดหน้าต่าง Run พิมพ์  netplwiz  ลงในช่องว่าง Open แล้ว Enter 2.คลิกเลือก User ที่รายการ User Name จะทำการล็อกออนอัตโนมัติ 3.คลิกเอาเครื่องถูกออกที่  Users must enter a user name and password to use this computer  คลิก  OK 4.ระบบจะแสดงหน้าต่างถามพาสเวิร์ดให้ใส่พาสเวิร์ดที่เดิมที่เคยใช้ 2 ครั้ง คลิก  OK หมายเหตุ :  กรณีที่ต้องการยกเลิกการล็อกออนอัตโนมัติ ก็ให้คลิกใส่เครื่องหมายถูกที่  Users must enter a user name and password

Windows 8 : รีเซต Windows 8 กลับมาตอนติดตั้งใหม่

รูปภาพ
ฟีเจอร์ใหม่อย่างหนึ่งที่มีมากับ Windows 8 นั้นคือการรีเซตตัวคอมพิวเตอร์ของเรา  นั้นคือเมื่อ Windows ของเรามีปัญหามาก และคิดว่าแก้ไม่ได้แล้ว โดยทั่วไปถ้าเป็น Windows 7 หรือ Windows อื่นๆ ก็จะฟอร์แม็ตเครื่องแล้วลงใหม่ แต่ใน Windows 8 ไม่จำเป็นต้องลงใหม่ จะใช้วิธีรีเซตเครื่องให้ย้อนกับมา เหมือนตอนติดตั้งใหม่ หรือที่เรียกว่า Clean Install วิธีการก็ทำมีดังนี้ 1.บูตด้วยแผ่นติดตั้ง DVD หรือ USB Flash Drive  Windows 8 ทำเหมือนตอนติดตั้ง เมื่อเลือกภาษาเสร็จ แล้ว มาที่หน้า Install ให้เลือก  Repair Computer  > Troubleshoot 2.จะมาที่หน้า  Troubleshoot  ให้คลิกเลือก  Reset your PC 3.คลิก  Next 4.คลิกที่  User Name 5.ใส่พาสเวิร์ด แล้วคลิก  Continue 6.จะมาหน้าที่ให้เลือก OS ในที่นี่ก็คือ  Windows Developer Preview 7.ต่อมาระบบจะให้เลือกว่าจะย้อนกลับเฉพาะไดรฟ์ที่ติดตั้ง Windows หรือไดรฟ์ทั้งหมดที่อยู่ในเครื่อง ในที่นี่คลิกเลือก  Only the drive where Windows in installed 8.ต่อมาคลิกที่  Reset 9.นั่งรอครับปล่อยให้ระบบทำงานไป 10.เมื่อเสร็จ Windows

ปัญหาการบูตระบบช้าและการแก้ไขใน Windows 7

รูปภาพ
สำหรับผู้ใช้ Windows 7 และผู้ที่อัปเดทเป็น Service Pack 1 นั้น ขณะนี้ได้เกิดปัญหานึงในการบูตระบบ คือเมื่อใช้ไปนานๆ เข้าจะเกิดอาการที่เครื่องบูตช้าผิดปกติ  ทางไมโครซอฟต์ได้ออกมายืนยันแล้วว่าปัญหานี้เกิดจริง โดยแจ้งว่าปัญหาเกิดจากกระบวนการบูตระบบ Windows 7 และ Windows 7 SP1 เหตุเป็นเพราะปัญหาที่ระบบได้สร้างจุดคืนค่า (Restore Point) เอาไว้มากจนเกินไป ทำให้กระบวนการบูตที่ช้าไปด้วย  ต้นต่อเกิดจากฟีเจอร์ ReadyBoot ทำงานผิดผลาดได้สร้างจุดคืนค่าเอาไว้เกินขีดจำกัดซึ่งปกติแล้วจะมีขนาดของแต่ละจุดคืนค่าอยู่ที่ 512KB และจะถูกตรวจสอบด้วยไฟล์ Volsnap.sys เมื่อมีการทำงานที่ผิดผลาด ทำให้กระบวนการบูตส่งข้อมูลกันผิดผลาด ซึ่งทำให้การบูตช้ามาก อย่างไรก็ดีทางไมโครซอฟต์ได้แจ้งว่าปัญหาอาการหน่วงเครื่องในเวลาบูตนี้ จะพบกันมากกับคอมพิวเตอร์ที่ใช้ฮารด์ดิสก์ที่มีขนาดใหญ่ตั้งแต่ 2 TB ขึ้นไปในการทำงานของระบบ สำหรับท่านใดที่พบปัญหานี้ สามารถดาวน์โหลด Hotfix เพื่อแก้ปัญหาได้ตามลิงค์ http://support.microsoft.com/hotfix/KBHotfix.aspx?kbnum=2555428&kbln=en-us รายละเอียด http://support.

เอาคำสั่งลบไฟล์แบบถาวรมาไว้ที่เมนูคลิกขวา

รูปภาพ
ปรกติการลบไฟล์หรือโฟลเดอร์ใน Windows จะไม่ได้เป็นการลบแบบถาวร เราสามารถกู้ไฟล์ที่โดนลบกลับมาได้จากคำสั่งที่ Recycle Bin หรือจะสั่งลบแบบถาวรก็ใช้คำสั่ง Empty  Recycle Bin แต่ในความเป็นจริงคำสั่งนี้ก็ไม่ได้ลบไฟล์หรือโฟลเดอร์แบบถาวร ยังสามารถกู้ขึ้นมาได้โดยโปรแกรมกู้ข้อมูลต่างๆ สำหรับบทความนี้ ผมจะมาเอาคำสั่งลบไฟล์หรือโฟลเดอร์แบบถาวรจริง ๆ คือ ลบแบบปลอดภัยไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่ลบจะถูกเขียนทับหลายครั้ง  (อยู่ที่ว่าตั้งค่าเขียนทับกี่ครั้ง)  ช่วยให้แน่ใจว่าไฟล์หรือโฟลเดอร์สำคัญที่เป็นความลับ ไม่สามารถกู้ขึ้นมาได้ …. มาลงมือทำกัน 1.ก่อนอื่นต้องไปดาวน์โหลดโปรแกรมที่ชื่อ  Sdelete  ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ลบไฟล์แบบรักษาความปลอดภัย โดยโปรแกรม จะใช้มาตราฐานการลบเข้าระหัสแบบ  DOD 5220.22-M  ซึ่งเป็นมาตราฐานของ  National Industrial Security Program  โดยดาวน์โหลดได้ที่นี่   http://technet.microsoft.com/en-us/sysinternals/bb897443   (เป็นฟรีแวร์) 2.เมื่อได้ไฟล์แล้วให้ขยายไฟล์ออกมา แล้วก็อปปี้ไฟล์ที่ชื่อ  sdelete.exe  ไปไว้ที่  C:\Windows\System32 3.ให้เปิด Notepad ขึ้นมา

เพิ่มคำสั่ง Restart ให้เมนูคลิกขวาที่ Desktop

รูปภาพ
ปรกติเมื่อเราจะรีสตาร์ทเครื่อง เราจะไปคลิกที่ Start แล้วเลือกคำสั่ง Restart ที่ปุ่ม Shut down (กรณี Windows 7) บทความทิปเล็กๆ สำหรับวันนี้ เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ใช้ Windows จะมาแนะวิธีเอาคำสั่ง Restart มาไว้ที่เมนูคลิกขวาที่หน้า Desktop  1.พิมพ์  regedit  ลงในช่องว่างของ Start Menu แล้ว Enter 2.เมื่อหน้าต่าง Registry Editor เปิดขึ้นมา คลิกไปตามคีย์ย่อยทางหน้าต่างช่องด้านซ้ายตามนี้ HKEY_CLASSES_ROOT\DesktopBackground\Shell 3.ให้คลิกขวาที่คีย์  Shell  เลือกคำสั่ง New > Key ตั้งชื่อคีย์เป็น  Restart Computer  4.ต่อมาให้คลิกเลือกที่คีย์ Restart computer แล้วคลิกขวาที่ว่างๆ ของหน้าต่างช่องด้านขวา เลือกคำสั่ง  New > String Value  ตั้งชื่อเป็น  icon  5.จากนั้นให้ดับเบิลคลิกที่คีย์ icon ที่หน้าต่าง Edit String ให้พิมพ์  shell32.dll,-290  ลงในช่องว่าง Value data แล้วคลิก OK  (คำสั่งนี้เป็นการเอาไอคอนมาไว้ที่คำสั่งด้วย)  6.ให้สร้างคีย์ใหม่ขึ้นอีกหนึ่งคีย์ ที่รายการ Restart Computer โดยให้ชื่อเป็น  Position  การสร้างก็เหมือนกับคีย์ icon เ