บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก 2012

Windows 8 : ป้องกันการเข้าใช้ Disk Drive

รูปภาพ
ในการใช้ Windows 8 มีฟีเจอร์ที่ป้องกันการเข้าถึงดิสก์ไดร์ฟ สำหรับท่านที่เป็นเจ้าของเครื่องที่ต้องการไม่ให้ผู้อื่นเข้าถึงข้อมูลในดิสก์ไดร์ฟ ในกรณีคนอื่นมาใช้เครื่องด้วย เพียงคุณตั้งค่าเพียงเล็กน้อยใน Windows เมื่อมีการคลิกเปิดใช้ดิสก์ไดร์ฟที่ตั้งค่าป้องกันก็จะมีคำเตือนยกเลิกการเข้าถึงดิสก์ไดร์ฟ แสดงออกมา วิธีการตั้งค่าป้องกันการเข้าใช้ดิสก์ไดร์ฟ ก็มีดังนี้ 1.กดคีย์  Windows Logo + R  พิมพ์  gpedit.msc  ที่ช่องว่าง Open แล้วกด Enter 2.เมื่อ  Local Group Policy Editor  เปิดขึ้นมา ให้คลิกไปตามคีย์ดังนี้ User Configuration  >  Administrative Templates  >  Windows Components  >  Windows Explorer 3.ที่หน้าต่างช่องขวาให้ดับเบิลคลิกที่  Prevent access to drives from My Computer 4.ที่หน้าต่าง Prevent access to drives from My Computer ให้คลิกทำเครื่องหมายจุดที่  Enabled  เสร็จแล้วมาเลือกดิสก์ไดร์ฟที่คุณจะป้องกันโดยคลิกเลือกที่ Drop down menu ภายใต้รายการ Options แล้วคลิก OK 5.มาที่หน้าต่าง Computer ให้คลิกที่ดิสก์ไดร์ฟที่คุณเลือกป้องกัน ก็จะใช้ไม่ได้ จะพบกับคำเต

ใช้ Windows 7 เเล้วช้า…ถึงคราวสะสางระบบกันบ้าง

รูปภาพ
สำหรับการใช้วินโดวส์ไม่ว่าจะเป็นเวอร์ชันใด ผู้ใช้จะพบกับปัญหาหนึ่งที่อยู่คู่กับวินโดวส์มาตลอด นั้นคือเมื่อเริ่มแรกๆ วินโดวส์ของเราก็วิ่งฉิ่วดีอยู่หรอก แต่เมื่อนานๆ ไปก็อืดทำงานช้าจะเปิดโปรแกรมอะไรแต่ละทีก็ใช้เวลานานขึ้นที่เป็นเช่นนี้ ก็เพราะวินโดวส์ได้สร้างไฟล์ที่ไม่ต้องการทิ้งไว้เยอะขึ้น ที่เรียกว่าไฟล์ขยะ เจ้าไฟล์ขยะที่ว่านี้ ก็เกิดจากเราติดตั้งโปรแกรมหรือถอนโปรแกรมเพราะเมื่อติดตั้งโปรแกรมใหม่เข้าไปในวินโดวส์ ในระหว่างการติดตั้งตัวโปรแกรมที่จะเขียนไฟล์ชั่วคราวที่จำเป็นในการติดตั้งไว้ในเครื่อง เมื่อติดตั้งเสร็จก็จะลบออกให้ แต่ในความจริงแล้วโปรแกรมพวกนี้มักจะลบไฟล์ชั่วคราวไม่หมด มันก็จะเป็นไฟล์ขยะไว้ในเครื่องเรา เมื่อถอนโปรแกรมก็เช่นกัน วินโดวส์ก็ไม่สามารถถอนไฟล์ทุกไฟล์ได้หมดจดก็จะเหลือเป็นไฟล์ขยะอีก ไหนจะไฟล์ที่เราทำงานลบบ้างก็อปปี้บ้าง ไฟล์ชั่วคราวของโปรแกรมต่างๆ ที่มันเขียนไว้ในขณะทำงานอีก และสำหรับพวกที่นิยมท่องเว็บก็จะมีไฟล์ขยะที่เรียกว่า Internet Cache Files   วันนี้เรามาสะสางกับปัญหานี้ด้วยกันดีกว่าเพื่อให้วินโดวส์ของเราลื่นไหลทำงานได้เร็วเหมือนตอนติดตั้งวินโดวส์ใหม่… ทำคว

การ Calibrate Battery เพื่อเพิ่มอายุการใช้งาน

รูปภาพ
สำหรับผู้ที่ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คหรือเน็ตบุ๊คทุกท่านจะมีปัญหาเกี่ยวกับแบตเตอรี่ที่เมื่อใช้ไปนานวันเข้า  ทำไมแบตเตอรี่หมดไวจัง  ทำให้ทำงานไม่สะดวก เหมือนเมื่อตอนซื้อเครื่องมาใหม่ๆ เนื่องจากภายในแบตเตอรี่จะมีวงจรที่รองรับการปรับรีชาร์จและชาร์จไฟให้ได้มาตรฐาน  ซึ่งหากใช้งานมาเป็นเวลานาน ไฟอาจจะชาร์จเข้าไม่เต็มที่ หรือ ไม่สามารถชาร์จจนเต็มได้ 100% ได้ ซึ่งนั้นหมายถึงการเสื่อมของแบตเตอรี่อายุการใช้งานจะน้อยลง เราก็ต้องมีการที่จะยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ให้นานขึ้น สำหรับบางคนจะเข้าใจผิดบอกว่าให้ถอดแบตเตอรี่ออกใช้การเสียบอะแดปเตอร์แทน  วิธีการนี้อายุของแบตเตอรี่ยิ่งจะเสื่อมเร็วเพราะไม่มีการกระตุ้นด้วยการใช้งานเลย  บางคนก็บอกว่า เสียบอะแดปเตอร์ไว้ตลอดเวลาจะได้ชาร์จให้เต็มตลอดเวลา อันนี้ก็ใช้ได้ แต่ก็ไม่ถูกต้องทั้งหมด เพราะว่ายังไม่ได้คลายประจุไฟออกมาก็อัดคืนเข้าไปแล้ว การทำ  Calibrate Battery  ครับ เป็นคำตอบของปัญหานี้ เมื่อคุณใช้แบตเตอรี่ สักระยะหนึ่ง แล้วมีอาการที่ไฟหมดเร็วชาร์จไม่เต็ม 100% การทำ Calibrate คือการปรับแต่ง แบตเตอรี่ให้เหมาะสมกับการใช้งาน เพื่อยืดอายุให้นานวันและ

ใช้งาน Windows 8 อย่างรวดเร็วด้วยคีย์ลัด (Shortcuts)

รูปภาพ
Shortcuts หรือคีย์ลัดก็เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่า เป็นหนทางที่ผู้ใช้วินโดวส์ทั้งหลายไม่ว่าจะตั้งแต่เวอร์ชันเก่าๆ มาจนถึงปัจจุบัน Windows 8 จะเข้าถึงส่วนต่างๆ ของระบบวินโดวส์ ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่ค่อยสนใจหรือจดจำกันเท่าไร ในวินโดวส์เวอร์ชันก่อนๆ เพราะมีเมาส์ใช้ทำงานอยู่แล้ว แต่มา Windows 8 ถึงจะมีเมาส์ใช้งาน แต่ไม่ใช่ง่ายเลยที่จะใช้งานกับ Windows 8 เพราะได้มีการเปลี่ยนแปลงในวินโดวส์เวอร์ชันนี้ค่อนข้างมาก นั้นได้แก่การมาของรูปแบบการติดต่อกับผู้ใช้แบบ Metro Style ทำให้การคลิกเมาส์อย่างเดียวไม่เป็นไปอย่างที่ท่านๆ ทั้งหลายคิด มันซับซ้อนขึ้น ฉะนั้นถ้าเราเรียนรู้การเรียกคำสั่งต่างของ Windows 8 โดยการกดคีย์ลัด ก็น่าจะเป็นการสะดวกที่เราจะทำงานได้รวดเร็วขึ้น ดีกว่าเอามือไปเลื่อนเมาส์มาคลิกส่วนต่างๆ    คีย์ลัดต่างๆ ที่จะกล่าวต่อไปนี้ เป็นคีย์ลัดที่เราควรรู้ไว้บ้างโดยเน้นที่คีย์  Windows Logo  เป็นหลักซึ่งต่อไปนี้ผมขอเรียกว่า  Winkey  บวกกับคีย์อักษรต่างๆ ในคีย์บอร์ดของเรา…. WINKEY  – กดคีย์เพื่อจะสลับไปมาระหว่าง Start screen (Metro) กับ Windows Desktop WINKEY + 1, WINKEY + 2….  – เป็นการเรีย